หมาเห่าเครื่องบิน (A Dog and A Plane) รีวิว

19 เมษายน 2025
หมาเห่าเครื่องบิน (A Dog and A Plane) รีวิว

หมาเห่าเครื่องบิน (A Dog and A Plane) เรื่องราวในตอนแรกนี้ เป็นการเปิดตัวละครหลัก สร้างปมปัญหาความขัดแย้ง และทิ้งท้ายด้วยความสงสัยใคร่รู้ เพื่อดึงดูด ให้ผู้ชมติดตามเรื่องราว ในตอนต่อไป ว่าเหตุผลที่แท้จริงของการเห่าเครื่องบินของเจ้าโชคคืออะไร และความสัมพันธ์ระหว่างภัทร ไหม และเจ้าโชคจะพัฒนาไปในทิศทางใด

เรื่องย่อ 

ท่ามกลางความวุ่นวาย ของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิ เสียงเครื่องยนต์เจ็ตดังกระหึ่มเป็นปกติ แต่สำหรับ เจ้าโชค สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์แสนรู้ที่อาศัยอยู่บริเวณใกล้เคียง กลับเป็นสัญญาณแห่งความตื่นเต้นและบางครั้งก็ความกังวล ทุกครั้งที่เครื่องบินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า เจ้าโชคจะส่งเสียงเห่าก้องกังวาน ราวกับจะสื่อสารกับเหล่านกเหล็กที่บินอยู่เหนือหัว

ชีวิตอันสงบสุขของเจ้าโชคต้องเปลี่ยนแปลงไป เมื่อ กัปตันภัทร (รับบทโดย ธีรภัทร ชนะกิจ) นักบินหนุ่มผู้มีระเบียบวินัยสูง ต้องมาประจำการที่สนามบินแห่งนี้ ภัทรเป็นคนรักความสะอาดและไม่ชอบเสียงดังเป็นที่สุด เสียงเห่าของเจ้าโชคจึงกลายเป็นสิ่งที่สร้างความรำคาญใจให้กับเขาตั้งแต่แรกพบ

ในขณะเดียวกัน แอร์โฮสเตสไหม (รับบทโดย ณัฐริกา ฟ้าประทาน) สาวสวยบุคลิกสดใสและเป็นคนรักสัตว์ เธอสังเกตเห็นเจ้าโชคมานานและรู้สึกเอ็นดูในความขี้เล่นของมัน ไหมพยายามทำความเข้าใจเหตุผลที่เจ้าโชคเห่าเครื่องบิน และมักจะแอบนำอาหารมาให้มันอยู่เสมอ

เหตุการณ์วุ่นวายเริ่มต้นขึ้นเมื่อวันหนึ่ง เจ้าโชคหลุดเข้าไปในเขตห้ามของสนามบิน สร้างความโกลาหลไปทั่วบริเวณ ภัทรที่กำลังเตรียมตัวขึ้นบินถึงกับหัวเสียเมื่อเห็นสุนัขตัวใหญ่วิ่งป่วนไปมา ไหมพยายามตามจับเจ้าโชค แต่สถานการณ์กลับยิ่งเลวร้ายขึ้น เมื่อเจ้าโชคดันวิ่งเข้าไปในสนามบิน ทำให้เที่ยวบินดีเลย์และเกิดความเสียหายเล็กน้อย

จากเหตุการณ์นี้เอง ทำให้ภัทรและไหมต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับเจ้าโชคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ภัทรต้องการหาทางจัดการกับเจ้าโชคอย่างเด็ดขาด ในขณะที่ไหมพยายามปกป้องและหาทางช่วยเหลือมัน เธอเชื่อว่าเบื้องหลังการเห่าของเจ้าโชคอาจมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่

ระหว่างความวุ่นวายนี้เอง เราได้รู้จักกับตัวละครสมทบที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็น ลุงยาม (รับบทโดย สมชาย เข็มกลัด) ยามรักษาความปลอดภัยวัยเกษียณที่ดูเหมือนจะรู้เรื่องราวของเจ้าโชคเป็นอย่างดี น้องแนน (รับบทโดย พิมพ์ชนก เลิศประเสริฐ) เด็กสาวข้างสนามบินที่ผูกพันกับเจ้าโชค และ หัวหน้าสถานี (รับบทโดย สุรศักดิ์ ชัยอรรถ) เจ้านายของภัทรที่ต้องปวดหัวกับปัญหาที่เกิดขึ้น

ในตอนท้าย เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมื่อเจ้าโชคแสดงพฤติกรรมที่น่าประหลาดใจ ราวกับกำลังพยายามเตือนบางสิ่งบางอย่างที่กำลังจะเกิดขึ้นในสนามบิน เหตุการณ์นี้ทำให้ภัทรเริ่มสงสัยในพฤติกรรมของเจ้าโชค และอาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างนักบินหนุ่มกับสุนัขจรจัดเริ่มเปลี่ยนแปลงไป

เงามืดเหนือรันเวย์ กับ มิตรภาพที่ไม่คาดฝัน

ในตอนที่สองของซีรีส์ที่อบอุ่นหัวใจและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นอย่าง “หมาเห่าเครื่องบิน (A Dog and A Plane)” เรื่องราวเข้มข้นขึ้นเมื่อความสงบสุขของสนามบินนานาชาติสุวรรณภูมิเริ่มถูกรบกวนด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในตอนแรกที่ทำให้ เจ้านำโชค สุนัขจรจัดแสนรู้ ได้พบกับ กัปตันภัทร นักบินหนุ่มผู้รักสัตว์ เรื่องราวในตอนนี้จะพาผู้ชมไปสำรวจความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นขึ้นของทั้งสอง พร้อมกับการปรากฏตัวของเงาบางอย่างที่คุกคามความปลอดภัยของสนามบิน

เรื่องราวเริ่มต้นขึ้น เมื่อกัปตันภัทรตัดสินใจรับเจ้านำโชคมาดูแลอย่างเป็นทางการ หลังจากเห็นความฉลาดและความผูกพันที่เจ้านำโชคมีต่อเครื่องบินและการทำงานในสนามบิน เจ้านำโชคปรับตัวเข้ากับชีวิตใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มันกลายเป็นขวัญใจของบรรดาพนักงานภาคพื้นดิน และมักจะปรากฏตัวใกล้กับเครื่องบินลำโปรดของกัปตันภัทรเสมอ

ในขณะเดียวกัน เหตุการณ์ประหลาดเริ่มเกิดขึ้นในสนามบิน อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขัดข้องบ่อยครั้ง ระบบรักษาความปลอดภัยเกิดข้อผิดพลาดเล็กน้อยแต่สร้างความกังวลให้กับ ผู้จัดการรุจิรา ผู้บริหารสนามบินหญิงแกร่งที่ต้องรับมือกับความท้าทายต่างๆ เธอเริ่มสงสัยว่ามีใครบางคนจงใจก่อกวนระบบ

กัปตันภัทรเองก็สังเกตเห็นความผิดปกติเหล่านี้เช่นกัน ในระหว่างการตรวจเช็คเครื่องบินก่อนขึ้นบิน เขาพบร่องรอยบางอย่างที่น่าสงสัย ทำให้เขาเริ่มสืบสวนเรื่องนี้อย่างลับๆ โดยมีเจ้านำโชคเป็นคู่หูสี่ขาที่คอยดมกลิ่นและสังเกตสิ่งรอบข้างอย่างเฉลียวฉลาด

ในการสืบสวน กัปตันภัทรและเจ้านำโชคได้พบกับเบาะแสเล็กๆ น้อยๆ ที่เชื่อมโยงไปยังกลุ่มบุคคลที่น่าสงสัย พวกเขาต้องใช้ความช่างสังเกตและความกล้าหาญในการติดตามร่องรอยต่างๆ ภายในสนามบินอันกว้างใหญ่ ตั้งแต่บริเวณรันเวย์ โรงเก็บเครื่องบิน ไปจนถึงอาคารผู้โดยสาร

ความผูกพันระหว่างกัปตันภัทรและเจ้านำโชคเติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เจ้านำโชคไม่ใช่แค่สัตว์เลี้ยง แต่กลายเป็นเพื่อนคู่ใจและผู้ช่วยที่สำคัญของภัทร สัญชาตญาณของมันหลายครั้งนำไปสู่การค้นพบที่สำคัญ ซึ่งมนุษย์อาจมองข้ามไป

ในขณะที่การสืบสวนดำเนินไป ความตึงเครียดก็เพิ่มสูงขึ้น เหตุการณ์ผิดปกติเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ความปลอดภัยของผู้โดยสารและอากาศยานตกอยู่ในความเสี่ยง กัปตันภัทรและเจ้านำโชคต้องแข่งกับเวลาเพื่อเปิดโปงผู้อยู่เบื้องหลังและหยุดยั้งแผนการร้ายของพวกเขา

จะเผยให้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังของสนามบินมากขึ้น พาผู้ชมไปสำรวจพื้นที่ที่ไม่เคยเห็น และ introduce ตัวละครใหม่ที่จะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการดำเนินเรื่อง นอกจากความตื่นเต้นของการสืบสวนแล้ว ซีรีส์ยังคงนำเสนอความน่ารักและความซื่อสัตย์ของเจ้านำโชค ที่สามารถสร้างรอยยิ้มและความประทับใจให้กับผู้ชมได้อย่างแน่นอน

ปีกแห่งความลับ และรอยเท้าบนรันเวย์

ในตอนที่สามของซีรีส์ที่ผสมผสานความผูกพันอันน่าทึ่งระหว่างเพื่อนต่างสายพันธุ์เข้ากับฉากหลังอันน่าตื่นเต้นของสนามบินนานาชาติ เรื่องราวของเราเข้มข้นขึ้นเมื่อเงื่อนงำใหม่ๆ ปรากฏขึ้น พร้อมกับความท้าทายที่ซับซ้อนยิ่งกว่าเดิมสำหรับ “เจ้าเฉิ่ม” สุนัขพันธุ์โกลเด้น รีทรีฟเวอร์ผู้ซื่อสัตย์ และ “กัปตันนนท์” นักบินหนุ่มผู้รักความยุติธรรม

หลังจากเหตุการณ์วุ่นวายในตอนที่สอง ซึ่งเจ้าเฉิ่มได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการดมกลิ่นที่เหนือกว่าใคร กัปตันนนท์เริ่มตระหนักถึงศักยภาพอันพิเศษของเพื่อนสี่ขาของเขามากยิ่งขึ้น เขาตัดสินใจที่จะฝึกฝนเจ้าเฉิ่มอย่างจริงจัง โดยมีแอร์โฮสเตสไหมคอยให้คำแนะนำและความช่วยเหลือ ทั้งคู่ใช้เวลาว่างในการฝึกดมกลิ่นวัตถุต่างๆ ในบริเวณสนามบิน เพื่อพัฒนาความสามารถของเจ้าเฉิ่มให้เฉียบคมยิ่งขึ้น

ในขณะเดียวกัน สารวัตรพิชิตยังคงมุ่งมั่นกับการสืบสวนคดีการหายตัวไปของสิ่งของลึกลับในสนามบิน แม้จะยังไม่พบหลักฐานที่ชัดเจน แต่เขาก็เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติบางอย่างในบริเวณที่เกิดเหตุการณ์ล่าสุด ร่องรอยบางอย่างที่มนุษย์มองข้ามไป กลับเป็นสิ่งที่เจ้าเฉิ่มให้ความสนใจเป็นพิเศษ

ฉากสำคัญในตอนนี้คือเหตุการณ์ที่เจ้าเฉิ่มแสดงอาการกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด บริเวณโรงเก็บเครื่องบินเก่าที่ไม่ได้ใช้งานเป็นเวลานาน กัปตันนนท์และไหมสังเกตเห็นความผิดปกติจากท่าทางของเจ้าเฉิ่ม พวกเขาตัดสินใจเข้าไปสำรวจภายในโรงเก็บเครื่องบินดังกล่าว แม้ว่าลุงยามจะเคยบอกว่าไม่มีใครเข้าไปในนั้นมานานแล้วก็ตาม

ภายในโรงเก็บเครื่องบินที่มืดมิดและเต็มไปด้วยฝุ่น เจ้าเฉิ่มดมกลิ่นไปตามพื้นอย่างละเอียด ก่อนที่จะหยุดลงที่บริเวณใต้ท้องเครื่องบินเก่าลำหนึ่ง มันเห่าเบาๆ พร้อมกับใช้จมูกดุนบางสิ่งบางอย่างที่ซุกซ่อนอยู่ เมื่อนนท์และไหมเข้าไปดูใกล้ๆ พวกเขาก็พบกับรอยเท้าเล็กๆ ที่ไม่คุ้นตา และกลิ่นบางอย่างที่เจ้าเฉิ่มแสดงอาการสนใจเป็นพิเศษ

ร่องรอยนี้เองที่นำไปสู่เงื่อนงำใหม่ในการสืบสวนของสารวัตรพิชิต หมาเห่าเครื่องบิน เมื่อเขาได้รับแจ้งจากนนท์เกี่ยวกับสิ่งที่ค้นพบ เขารีบเดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วยตัวเอง สารวัตรพิชิตเริ่มตั้งข้อสงสัยว่า อาจมีใครบางคนแอบเข้ามาใช้ประโยชน์จากโรงเก็บเครื่องบินเก่าแห่งนี้ โดยที่ไม่มีใครรู้

ในขณะที่การสืบสวนดำเนินไป ความผูกพันระหว่างกัปตันนนท์และเจ้าเฉิ่มก็แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นนท์เริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจภาษากายและการแสดงออกของเจ้าเฉิ่มมากขึ้น ในขณะที่เจ้าเฉิ่มเองก็รับรู้ได้ถึงความใส่ใจและความรักที่นนท์มีให้ ความไว้วางใจระหว่างทั้งสองเป็นเหมือนกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่การไขปริศนา

ตอนที่สามนี้จบลงด้วยฉากที่เจ้าเฉิ่มเห่าเสียงดังไปยังเครื่องบินลำหนึ่งที่กำลังเตรียมบินขึ้น ท่าทางของมันเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและราวกับต้องการจะสื่อสารบางอย่าง กัปตันนนท์และไหมมองหน้ากันด้วยความสงสัย พวกเขารู้สึกว่าการเห่าครั้งนี้ของเจ้าเฉิ่มอาจมีความหมายบางอย่างที่สำคัญ และอาจเชื่อมโยงกับสิ่งที่พวกเขากำลังสืบสวนอยู่ก็เป็นได้


© ดูหนังใหม่ หนังออนไลน์ ดูหนังฟรีไม่มีโฆษณา พากย์ไทย เต็มเรื่อง API หนัง setbet88